ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าธุรกิจร้านค้าหรือมินิมาร์ทในตลาดมีการขยายเติบโตมากขึ้น หัวข้อที่จะพูดถึงวันนี้ เราจะมาว่ากันถึง “วิธีเปิดร้านมินิมาร์ทอย่างไรให้ขายดี” ธุรกิจมินิมาร์ทเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีคนให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ที่จะทำการตลาด แต่หากคุณสายไม่แข็งหรือประสบการณ์ยังไม่มีก็อาจจะต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นสักหน่อย หรืออาจต้องเจ๊งไปก็เป็นได้
ฉะนั้น ก่อนการเริ่มลงทุนเราต้องมาดูกันว่าปัจจัยอะไรบ้างที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ธุรกิจมินิมาร์ทประสบความสำเร็จได้ ดังนี้
1.ต้นทุนงบการเปิดร้าน สิ่งแรกที่เราจะดูกันคือเรื่องต้นทุนหรือเงินลงทุน เพราะธุรกิจมินิมาร์ท ถือเป็นร้านค้าที่ต้องมีเงินลงทุน ซึ่งอย่างน้อยควรมีหลักหมื่นขึ้นไปถึงจะเพียงพอในการลงทุน เพราะจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการจัดหน้าร้าน และจ่ายค่าสินค้าต่างๆ ที่จะลงในร้าน
2 ทำเลที่ตั้ง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ถือว่าจำเป็นและผู้คิดจะลงทุนต้องคำนึงถึง เพราะหากมีที่ตั้งที่ดี ลูกค้ามองเห็นชัดเจน หรือผู้คนพลุกพล่าน การประสบความสำเร็จก็มีมากขึ้น หากคุณมีทำเลที่ตั้งที่ห่างไกลชุมชน หรือยากลำบากที่จะเดินทาง มีการเดินทางที่ซับซ้อน ก็อาจจะส่งผลให้ลูกค้าเข้ามาซื้อของหรือใช้บริการได้น้อย หรือทำเลที่อยู่ใกล้ร้านค้าอื่นๆ ที่เป็นประเภทเดียวกันก็ย่อมปิดโอกาสหรือลดโอกาสที่จะหาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มได้
3. กลุ่มลูกค้า คือปัจจัยที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าร้านมินิมาร์ทของคุณควรขายสินค้าประเภทไหน เน้นสินค้าอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เช่น อยู่ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย อาจจะเน้นพวกอุปกรณ์การเรียน การทำรายงาน หรือหนังสือติวเตอร์ หรือรับงานถ่ายเอกสาร หรือใกล้ชุมชนชาวบ้าน คนทำงานทั่วไปก็อาจจะเน้นไปที่เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรื่อง เช่น สบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน รับบริการชำระจ่ายค่าสินค้าต่างๆ เติมเงินมือถือ หรือค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น
4. การจัดหน้าร้านให้มีความดึงดูดน่าสนใจ จัดวางของให้เป็นระเบียบ สะอาด ไม่มีฝุ่นเกรอะกรัง ที่สำคัญคือการจัดวางให้ดูง่าย แบ่งเป็นหมวดหมู่ สะดวกต่อการเลือกซื้อ มีข้อมูลราคาให้ลูกค้าได้ตรวจสอบได้ชัดเจน แสดงราคาให้ถูกต้อง ไม่สับสน ด้วยการใส่ป้ายราคา หรือใส่บาร์โค๊ดให้ลูกค้าสามารถเช็คได้
5. การบริหารต้นทุน เรื่องนี้เป็นอีกปัจจัยที่ทิ้งไม่ได้เช่นกัน เพราะหากคุณมีงบการลงทุนที่มากพอหรือพร้อมแล้ว แต่หากขาดการจัดการหรือบริหารที่ดีย่อมส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาได้
แต่หากมีระบบการจัดการที่ดี เช่น มีโปรแกรมช่วยจัดการ แบ่งหมวดหมู่ ประเมินผลการลงทุนในแต่ละวัน หรือรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ที่คุณอาจตกหล่นไป เช่นการหมุนเงินไม่ทัน ขายของในมินิมาร์ทตัวเองได้ แต่กลับไม่เห็นกำไร หรือค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพนักงาน และค่าจิปาถะต่างๆ ฉะนั้นการจัดสรร หรือวางแผนบริหารต้นทุนจึงสำคัญมากๆ
6. การจัดการระบบการสต็อคสินค้า เป็นเรื่องของการจัดระเบียบร้านค้าระบบหลังร้าน และหน้าร้าน ที่จะต้องเตรียมวัตถุดิบหรือสินค้าให้พร้อมขายหน้าร้าน หรือสินค้าแต่ละประเภทที่มีความนิยมมาก น้อยแค่ไหนในยอดขายจากการสรุปรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ตามระบบร้านค้าของคุณได้จัดตั้งไว้
การมีระบบเข้ามาช่วยจัดการก็จะช่วยให้คุณสะดวก เห็นข้อมู]และรายละเอียดได้ชัดเจนมากขึ้น และสามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดจากระบบพนักงานตรวจสอบผิดพลาดได้ด้วยเช่นกัน
7. การศึกษาคู่แข่ง คู่แข่งทางการค้า คือผู้ขายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าที่มีในร้านของเราเหมือนกับเขาหรือไม่ ราคาสินค้าที่ขายถูกหรือแพงกว่ากันหรือไม่ เป็นจุดที่ต้องดูประกอบการจัดการตลาดเพื่อช่วยดึงดูดลูกค้าให้ใช้บริการร้านของเราได้ การทำการเก็บสถิติ หรือข้อมูลเปรียบเทียบก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เมื่อเรามีข้อมูล หรือคาเฉลี่ยราคาสินค้าแต่ละร้านว่ามีความต่างมากน้อยแค่ไหน ก็จะช่วยให้คุณสามารถตั้งราคาเพื่อหาจุดคุ้มทุน และสามารถดึงดูดลูกค้าเข้าร้านของคุณได้อีกด้วย
8. การทำการตลาด คือการสร้างโปรโมชั่น แต่ละช่วง หรือตามเทศกาลต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และช่วยให้ลูกค้าอยากใช้บริการร้านคุณ เช่นการสะสมแต้ม มีคูปองส่วนลดหรือการจับสลากรับรางวัลต่างๆ ที่ทางร้านจัดขึ้น
9. การจ้างพนักงาน ซึ่งเราจะแบ่งเป็นสองส่วนก็คือ พนักงานหน้าร้าน มีหน้าที่สำหรับดูแลร้านในส่วนของการจัดเรียงสินค้า รับลูกค้าช่วยลูกค้าจัดหาแนะนำสินค้าให้ลูกค้าได้ แคชเชียร์ทำหน้าที่คิดเงิน และพนักส่งสินค้าสำหรับการจัดซื้อในปริมาณมาก ที่ต้องการใช้บริการจัดส่งให้ หรือบริการส่งถึงที่เมื่อซื้อยอดครบตามร้านตั้งไว้ ซึ่งส่วนทั้งหมดที่กล่าวมาควรมีระบบการตรวจสอบได้เพื่อป้องกันการโกงของพนักงาน ระบบจัดการร้านค้าจึงเป็นตัวช่วยที่จะตรวจเช็กและป้องกันการโกงของพนักงานได้
10. การขยายสาขา มาถึงข้อสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือ การขยายาสาขา เมื่อร้านมินิมาร์ทของคุณมีลูกค้าใช้บริการมากขึ้น นั่นแสดงให้เห็นว่า การทำธุรกิจของคุณสำเร็จไปอีกขั้น และหากต้องการความเติบโตมากขึ้น ก็ต้องต่อด้วยการขยายร้านค้า หรอขยายสาขา เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าพื้นที่ต่างๆ กลุ่มต่างๆ ได้มากขึ้น
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับบทความที่ผมนำมาฝากวันนี้ อย่างไรแล้วการที่จะเปิดร้านให้ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องอาศัย โปรแกรมร้านค้า ที่ช่วยจัดการบริหาร ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง รับรองเลยว่าร้านมินิมาร์ทของคุณจะต้องขายดีขึ้นอย่างแน่นอน